วีซ่าทำงาน

ในหน้านี้:


คำถามที่พบบ่อย

ข้อมูลทั่วไป

หากท่านต้องการทำงานในสหรัฐอเมริกาเป็นการชั่วคราว ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการเข้าเมืองสหรัฐฯ ท่านจะต้องได้รับวีซ่าให้ถูกประเภทตามประเภทของงานที่จะไปทำ สำหรับงานแรงงานชั่วคราวส่วนใหญ่กำหนดไว้ว่านายจ้างหรือตัวแทนจะต้องยื่นคำร้อง และผ่านการอนุมัติจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติของสหรัฐอเมริกา (USCIS) ในสหรัฐอเมริกาก่อน ผู้สมัครจึงจะสามารถมายื่นคำร้องขอวีซ่าทำงานได้

ผู้สมัครวีซ่าประเภท H, L, O, P และ Q ทั้งหมดต้องได้รับการอนุมัติ คำร้อง Form I-129โดยสำนักงาน USCIS ก่อนที่ท่านจะสามารถยื่นคำร้องขอวีซ่าทำงานที่สถานทูตฯที่กรุงเทพฯ เมื่อคำร้องผ่านการอนุมัติแล้ว นายจ้างหรือตัวแทนของท่านจะได้รับ Notice of Action, Form I-797 ซึ่งเป็นการแจ้งว่าคำร้องของท่านผ่านการอนุมัติแล้ว เจ้าหน้าที่กงสุลจะตรวจสอบคำร้องของท่านผ่านระบบจัดการข้อมูลคำร้อง (PIMS) ขณะสัมภาษณ์

ท่านต้องนำใบเสร็จชำระเงินค่าธรรมเนียม I-129 SEVIS มาด้วยในวันสัมภาษณ์ ณ สถานทูตฯเพื่อใช้ในการตรวจสอบการอนุมัติคำร้องของท่าน โปรดทราบว่าคำร้องที่ผ่านการอนุมัติแล้วไม่ได้เป็นสิ่งรับประกันว่าวีซ่าของท่านจะผ่านการอนุมัติ หากพบว่าท่านขาดคุณสมบัติในการได้รับวีซ่าภายใต้กฎหมายว่าด้วยการเข้าเมืองสหรัฐฯ

รายละเอียดและคุณสมบัติของวีซ่าแต่ละประเภท

H-1B (อาชีพผู้ชำนาญการพิเศษ)

ท่านจะต้องขอวีซ่าประเภท H-1B หากท่านเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อปฏิบัติงานซึ่งได้มีการจัดการทำเรื่องไว้เรียบร้อยแล้ว ผู้ที่มีคุณสมบัติในการได้รับวีซ่าประเภทนี้จะต้องได้รับวุฒิการศึกษาขั้นต่ำปริญญาตรี (หรือปริญญาที่เทียบเท่า) ในสาขาวิชาที่ตรงกับตำแหน่งที่ถูกว่าจ้าง สำนักงาน USCIS จะเป็นผู้กำหนดว่างานประเภทนั้นเข้าข่ายเป็นอาชีพผุ้ชำนาญการหรือไม่ ตลอดจนการเป็นผู้พิจารณาว่าท่านมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะทำงานดังกล่าวได้หรือไม่ โดยนายจ้างจะต้องยื่นคำร้องการจ้างงานต่อกระทรวงแรงงานเพื่อชี้แจงข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญาจ้างงานของท่าน

H-1B1 วีซ่าทำงานชั่วคราวสำหรับประเทศคู่ค้าตามสนธิสัญญา

ข้อตกลงทางการค้าเสรีซึ่งลงนามระหว่างประเทศชิลีและสิงคโปร์อนุญาตให้พลเมืองชิลีและสิงคโปร์ที่มีคุณสมบัติเพียงพอสามารถทำงานในประเทศสหรัฐฯได้ในบางกรณี เฉพาะพลเมืองชิลีและสิงคโปร์เท่านั้นที่มีสิทธิ์ในการเป็นผู้สมัครคนหลักได้ อย่างไรก็ตามคู่สมรสและบุตรสามารถเป็นพลเมืองประเทศอื่นๆได้

ผู้สมัครวีซ่า H-1B1 ต้องได้รับการเสนองานจากนายจ้างในประเทศสหรัฐฯเป็นที่เรียบร้อย แต่นายจ้างไม่จำเป็นต้องยื่นใบคำร้อง I-129 (Petition for Nonimmigrant Worker) และผู้สมัครไม่จำเป็นต้องได้รับใบคำร้อง I-797 (Notice of Approval) ก่อนการสมัครวีซ่า อย่างไรก็ตามนายจ้างจะต้องยื่นใบสมัครการรับรองแรงงานต่างด้าว (Application for Foreign Labor Certification) กับกระทรวงแรงงานสหรัฐฯก่อนที่จะดำเนินขั้นตอนการสมัครวีซ่า สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของวีซ่าประเภท H-1B1 กรุณาดูจากเว็บไซต์https://travel.state.gov/content/travel/en/us-visas/employment/temporary-worker-visas.html

H-2A (เกษตรกรตามฤดูกาล)

วีซ่าชนิด H-2A เป็นวีซ่าที่อนุญาตให้นายจ้างสามารถรับชาวต่างชาติเข้าทำงานด้านเกษตรกรรมในสหรัฐอเมริกาเป็นการชั่วคราวเนื่องจากไม่สามารถหาแรงงานสัญชาติอเมริกันสำหรับงานประเภทนั้นได้ ผู้สมัครจะมีสิทธิยื่นคำร้องขอวีซ่าชั่วคราวชนิด H-2A นี้ได้ต่อเมื่อท่านต้องการทำงานด้านเกษตรกรรมในสหรัฐอเมริกาเป็นการชั่วคราวหรือตามฤดูกาลเท่านั้น โดยนายจ้างในสหรัฐอเมริกา (หรือบริษัททางด้านเกษตรกรรมในสหรัฐอเมริกาที่มีชื่ออยู่ในนายจ้างร่วม) ต้องยื่นแบบฟอร์ม I-129 ซึ่งเป็นคำร้องสำหรับแรงงานชั่วคราวในนามของท่าน

วีซ่า H-2B (แรงงานผู้เชี่ยวชาญ/ไม่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน)

ท่านต้องมีวีซ่าประเภทสำหรับการเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อทำงานเป็นการชั่วคราวหรือตามฤดูกาล ในตำแหน่งที่ขาดแรงงานสัญชาติอเมริกัน โดยนายจ้างของท่านต้องมีใบรับรองจากกระทรวงแรงงานที่ยืนยันว่าไม่สามารถหาแรงงานสัญชาติอเมริกันที่มีคุณสมบัติในตำแหน่งงานนั้นๆได้

H-3 (สำหรับการฝึกงาน)

ท่านต้องมีวีซ่าประเภท H-3 สำหรับการเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อฝึกงานในระยะเวลาไม่เกินสองปีกับผู้ว่าจ้างในทุกสาขาโดยไม่จำเป็นว่าการฝึกงานนั้นจะเกี่ยวข้องกับสาขาวิชาที่ท่านได้จบการศึกษามาโดยตรง ท่านสามารถรับค่าตอบแทนจากการฝึกงานหรือค่าตอบแทนที่ได้รับจากงานใดๆก็ตามที่ทำระหว่างการฝึกงานนั้นได้ แต่อย่างไรก็ดีการฝึกงานดังกล่าวนี้จะต้องไม่เป็นการปฏิบัติงานโดยผู้เชี่ยวชาญในการทำงานดังกล่าวอยู่แล้วและการฝึกงานนี้ต้องที่ไม่มีในประเทศของท่าน

H-4 (ผู้ติดตาม)

หากท่านเป็นผู้ถือวีซ่าหลักประเภท H คู่สมรสหรือบุตรที่อายุไม่เกิน 21 ปี (ที่มีสถานภาพโสด) ของท่าน สามารถได้รับวีซ่า H-4 เพื่อติดตามท่านไปยังสหรัฐอเมริกาได้ อย่างไรก็ตามคู่สมรสหรือบุตรของท่านจะไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานขณะพำนักอยู่ในสหรัฐอเมริกา

L-1 (พนักงานที่ย้ายไปทำงานที่สหรัฐชั่วคราวภายใต้การจ้างงานของบริษัทที่อยู่ในเครือเดียวกัน)

วีซ่าประเภท L-1ใช้สำหรับพนักงานของบริษัทในระดับสากลที่ย้ายไปปฏิบัติงานที่สำนักงานใหญ่ สำนักงานของบริษัทในเครือเดียวกัน หรือสาขาย่อยอื่นๆที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกาเป็นการชั่วคราว บริษัทในระดับสากลดังกล่าวอาจเป็นบริษัทของสหรัฐอเมริกาเองหรือบริษัทต่างชาติก็ได้ ผู้ที่มีคุณสมบัติในการยื่นคำร้องขอวีซ่าประเภทนี้ จะต้องมีตำแหน่งในระดับเทียบเท่าผู้จัดการหรือผู้บริหาร หรือมีความรู้ความสามารถที่เชี่ยวชาญ และได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ให้แก่บริษัทที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกาในระดับตำแหน่งที่ได้กล่าวมาข้างต้น ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องเป็นตำแหน่งเดียวกับที่ทำอยู่ก็ได้ นอกจากนี้ผู้สมัครยังจำเป็นต้องปฏิบัติงาน ให้แกบริษัทระดับสากลที่ตั้งอยู่ในประเทศอื่นๆที่นอกเหนือจากสหรัฐอเมริกาติดต่อกันเป็นเวลาหนึ่งปีภายในระยะเวลาสามปีก่อนทำการสมัครขอวีซ่าไปยังสหรัฐอเมริกาอีกด้วย ผู้สมัครจะสามารถยื่นคำร้องขอวีซ่าชนิด L-1 ได้ต่อเมื่อบริษัทของสหรัฐอเมริกาหรือบริษัทในเครือได้รับการอนุมัติคำร้องชนิดรวมหรือรายบุคคลจาก USCIS แล้วเท่านั้นใน

L-2 (ผู้ติดตาม)

สำหรับผู้ถือวีซ่าหลักประเภท L คู่สมรสหรือบุตรที่อายุต่ำกว่า 21 ปี (ที่ไม่ได้แต่งงาน)ของท่านสามารถได้รับวีซ่าติดตามประเภทนี้ได้ โดยการเปลี่ยนแปลงกฎหมายใหม่เมื่อเร็วๆนี้เปิดให้คู่สมรสสามารถขออนุญาตทำงานได้ โดยจะต้องเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยวีซ่า L-2 ก่อน จากนั้นให้ส่งแบบฟอร์ม I-765 (ขอรับได้จากสำนักงาน USCIS) พร้อมค่าธรรมเนียมในการยื่นคำร้อง ทั้งนี้บุตรจะไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในสหรัฐอเมริกา

O

วีซ่าประเภท O เป็นวีซ่าสำหรับบุคคลที่มีความสามารถเป็นพิเศษในด้านวิทยาศาสตร์ ศิลปะ การศึกษา ธุรกิจ และกีฬา หรือประสบความสำเร็จในด้านภาพยนตร์และการผลิตรายการโทรทัศน์ โดยวีซ่าประเภทนี้จะครอบคลุมถึงผู้ช่วยที่มีความจำเป็นต้องเดินทางติดตามมาด้วย

P (ศิลปิน ผู้ให้ความบันเทิง)

วีซ่าประเภท P เป็นวีซ่าสำหรับนักกีฬาบางประเภท ผู้ให้ความบันเทิง ศิลปิน และผู้ช่วยที่มีความจำเป็นต้องติดตามมาร่วมแสดงงานด้วย

Q

ท่านจะต้องมีวีซ่าประเภท Q สำหรับการเดินทางไปสหรัฐอเมริกาเพื่อเข้าร่วมในโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการฝึกงาน การว่าจ้าง และแลกเปลี่ยนข้อมูลประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และประเพณีของประเทศของท่าน ผู้สนับสนุนโครงการในสหรัฐฯจะต้องยื่นคำร้องในนามของท่านต่อสำนักงาน USCIS และคำร้องนั้นจะต้องได้รับการอนุมัติ

ควรยื่นคำร้องเมื่อใด

สถานทูตฯที่กรุงเทพฯ สามารถเริ่มดำเนินการเกี่ยวกับคำร้องขอวีซ่าประเภท H, L, O, P หรือ Q ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วันนับจากวันที่เริ่มงานตามที่ระบุไว้ใน I-797 ของท่าน อย่างไรก็ตามในการเตรียมตัวเดินทาง โปรดทราบว่ากฎข้อบังคับของรัฐบาลกลางอนุญาตให้ท่านใช้วีซ่าประเภทดังกล่าวเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกาได้ล่วงหน้าไม่เกินสิบวันนับจากวันเริ่มงานที่ปรากฎบน I-797 เท่านั้น

เอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นคำร้อง

หากท่านยื่นคำร้องขอวีซ่าชนิด H, L, O, P, or Q ท่านต้องยื่นเอกสารต่อไปนี้

  • ใบคำร้องขอวีซ่าชั่วคราวในระบบอิเล็กทรอนิกส์ (DS-160) ท่านสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก เว็บเพจ DS-160
  • หนังสือเดินทางที่สามารถใช้เดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกาได้ โดยหนังสือเดินทางนั้นจะต้องมีอายุใช้งานคงเหลือมากกว่าระยะเวลาที่ท่านตั้งใจจะอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างน้อยหกเดือน (นอกจากได้รับการยกเว้นจากข้อตกลงรายประเทศ) สำหรับผู้ที่ใช้หนังสือเดินทางร่วมกับผู้เยาว์ โปรดทราบว่าแต่ละคนที่ต้องการวีซ่าจะต้องยื่นใบคำร้องขอวีซ่าแยกกัน
  • รูปถ่ายขนาด 2x2" (5 ซม.x5 ซม.) ที่ถ่ายไว้ไม่เกินหกเดือนหนึ่ง (1) ใบ รายละเอียดเกี่ยวกับข้อกำหนดของรูปถ่าย สามารถหาได้จากเว็บเพจนี้
  • ใบเสร็จชำระเงินค่าธรรมเนียมวีซ่าชั่วคราวในสกุลเงินท้องถิ่นที่เทียบเท่ากับ 205 ดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าธรรมเนียมนี้ไม่สามารถขอคืนได้ เว็บเพจนี้จะมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการชำระค่าธรรมเนียมดังกล่าว ในบางกรณีหากวีซ่าของท่านผ่านการอนุมัติแล้ว ท่านยังอาจต้องชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในการออกวีซ่า โดยจะขึ้นอยู่กับสัญชาติของท่าน เว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯมีข้อมูลที่ช่วยระบุว่าท่านจะต้องชำระค่าธรรมเนียมในการออกวีซ่าหรือไม่ รวมถึงอัตราค่าธรรมเนียมดังกล่าว
  • หากท่านเป็นผู้สมัครวีซ่าชนิด L-1 ที่มีคำร้องรวม (Blanket) ท่านต้องชำระค่าธรรมเนียมในการป้องกันและตรวจสอบการทุจริตที่นี่)
  • หมายเลขใบเสร็จที่ปรากฎบนใบคำร้อง I-129 ของท่าน ท่านไม่ต้องแสดงสำเนา I-797 ในวันสัมภาษณ์

นอกจากเอกสารที่ได้กล่าวมาข้างต้นแล้ว ท่านต้องแสดงใบนัดสัมภาษณ์เพื่อยืนยันว่าท่านได้จองเวลานัดสัมภาษณ์ผ่านบริการนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และท่านยังสามารถนำเอกสารประกอบอื่นๆ ที่ท่านเชื่อว่าจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่เจ้าหน้าที่กงสุลได้ติดตัวมาด้วย

วิธีการสมัคร

ขั้นตอนที่ 1

กรอกใบคำร้องขอวีซ่าชั่วคราวในระบบอิเล็กทรอนิกส์ (DS-160)

ขั้นตอนที่ 2

ชำระค่าธรรมเนียมในการยื่นคำร้องขอวีซ่า

ขั้นตอนที่ 3

ทำการนัดสัมภาษณ์วีซ่าผ่านเว็บนี้ ท่านจะต้องใช้ข้อมูลต่อไปนี้ในการทำนัดสัมภาษณ์

  • หมายเลขหนังสือเดินทางของท่าน
  • หมายเลขใบเสร็จชำระเงินค่าธรรมเนียมวีซ่าของท่าน (คลิก ที่นี่ หากท่านต้องการความช่วยเหลือในการค้นหาหมายเลขดังกล่าว)
  • หมายเลขบาร์โค้ดสิบ (10) หลักที่ระบุไว้บนหน้ายืนยันแบบฟอร์ม DS-160
ขั้นตอนที่ 4

ไปที่สถานทูตฯที่กรุงเทพฯ ตามวันและเวลาที่ท่านมีนัดสัมภาษณ์ ท่านต้องนำใบยืนยันนัดสัมภาษณ์ ใบยืนยันDS-160ของท่าน รูปถ่ายที่ถ่ายไว้ไม่เกินหกเดือนหนึ่งใบ หนังสือเดินทางเล่มปัจจุบันและเล่มเก่าทั้งหมด และใบเสร็จการชำระเงินค่าธรรมเนียมวีซ่าตัวจริงมาด้วย คำร้องที่ไม่มีเอกสารทั้งหมดดังกล่าวจะไม่ได้รับการพิจารณา

เอกสารประกอบในการยื่นคำร้องขอวีซ่า

นอกจากเอกสารดังที่กล่าวมาแล้ว ท่านต้องแสดงใบนัดสัมภาษณ์เพื่อยืนยันว่าท่านได้จองเวลานัดสัมภาษณ์ผ่านบริการนี้ ท่านยังสามารถนำเอกสารประกอบอื่นๆ ที่ท่านเชื่อว่าจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่เจ้าหน้าที่กงสุลได้

ข้อควรระวัง: อย่าแสดงเอกสารปลอม การหลอกลวงหรือการกรอกข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงอาจทำให้ท่านเสียสิทธิ์ในการร้องขอวีซ่าอย่างถาวร หากท่านมีความกังวลเรื่องความลับของข้อมูล ท่านควรนำเอกสารต่างๆ ใส่ซองปิดผนึกมายังสถานทูตฯด้วยตนเอง สถานทูตฯจะไม่เปิดเผยข้อมูลของท่านต่อผู้ใดและจะเคารพข้อมูลที่เป็นความลับของท่าน

เจ้าหน้าที่กงสุลจะตัดสินใบคำร้องแต่ละกรณี โดยดูจากปัจจัยด้านอาชีพ สังคม วัฒนธรรม และปัจจัยอื่นๆที่มีอยู่ในขณะที่ทำการพิจารณา โดยอาจดูจากเจตนาของผู้สมัคร สถานการณ์ด้านครอบครัว แผนระยะยาว ตลอดจนสถานการณ์ภายในประเทศที่ท่านอาศัยอยู่ ซึ่งแต่ละกรณีจะได้รับการพิจารณาเป็นรายบุคคลภายใต้กฎหมาย

ในกรณีที่ท่านยื่นคำร้องขอวีซ่าเป็นครั้งแรก ให้ท่านนำเอกสารต่อไปนี้มาในวันนัดสัมภาษณ์

  • หลักฐานที่แสดงความสามารถในการทำงานของท่าน และเอกสารยืนยันวุฒิการศึกษา
  • หนังสือรับรองการทำงานฉบับจริงจากนายจ้างเก่าและนายจ้างปัจจุบันที่อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับตำแหน่งและผลงานที่ท่านเคยทำ ตลอดจนระยะเวลาที่ท่านได้ทำงานกับนายจ้างนั้นๆ
  • หากปัจจุบันท่านทำงานในสถานะ H-1B ให้แก่นายจ้างใดๆอยู่ โปรดส่งสลิปเงินเดือนสำหรับปีปัจจุบันและหลักฐานการยื่นภาษีรัฐบาลกลาง (IRS Form 1040 และ W-2) ของทุกปีที่ท่านได้ทำงานในสหรัฐอเมริกา และควรนำเอกสารต่อไปนี้มาด้วย
    • สลิปเงินเดือนจากนายจ้างปัจจุบันและก่อนหน้า
    • ชื่อและหมายเลขติดต่อผู้จัดการฝ่ายบุคคลของบริษัทที่จ้างงานท่านทั้งหมด ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
    • ประวัติการทำงานหรือ CV

ผู้ติดตาม

ผู้ติดตามของท่านควรนำเอกสารที่จำเป็นทั้งหมดในการยื่นคำร้องวีซ่าชั่วคราว รวมทั้งเอกสารต่อไปนี้มาด้วย

  • ใบสำคัญการสมรส (สำหรับคู่สมรส) และหรือสูติบัตร (สำหรับบุตรที่มีอายุต่ำกว่า 21และอยู่ในสถานภาพโสด ) ถ้ามี
  • หนังสือจากนายจ้างยืนยันการจ้างงานท่านอย่างต่อเนื่อง
  • หากปัจจุบันคู่สมรสของท่านทำงานในสหรัฐอเมริกาด้วยวีซ่าประเภท H1-B อยู่ ให้นำสลิปเงินเดือนสำหรับปีปัจจุบันและหลักฐานการยื่นภาษีรัฐบาลกลาง (IRS Form 1040 และ W-2s) ของทุกปีที่คู่สมรสของท่านได้ทำงานในสหรัฐอเมริกาด้วยวีซ่าชนิด H-1B

ข้อมูลเพิ่มเติม

ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวีซ่า H, L, O, P และ Q ได้จากเว็บเพจแรงงานชั่วคราวของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ