วีซ่าผู้ค้าหรือนักลงทุนตามสนธิสัญญา

ในหน้านี้:


ข้อมูลทั่วไป

วีซ่าผู้ค้า (E-1) และนักลงทุนตามสนธิสัญญา (E-2) เป็นวีซ่าสำหรับพลเมืองของประเทศซึ่งประเทศสหรัฐอเมริกาได้ทำสนธิสัญญาทางการค้าและการเดินเรือด้วย ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศคู่สนธิสัญญาดังกล่าว  สำหรับรายชื่อประเทศที่มีสนธิสัญญาการค้าขายกับสหรัฐฯ คลิกที่นี่

 เพื่อที่จะมีคุณสมบัติเป็นผู้สมัครวีซ่าผู้ค้า (E-1) และนักลงทุนตามสนธิสัญญา (E-2) ท่านต้องมาที่ประเทศสหรัฐฯ เพื่อ:

  • ประกอบธุรกิจซึ่งมีมูลค่ามากและประเภทของธุรกิจดังกล่าวอาจหมายรวมถึงการให้บริการหรืองานด้านเทคโนโลยีซึ่งเป็นกิจกรรมที่เป็นไปตามข้อตกลงร่วมกันและเป็นการค้าหลักๆระหว่างประเทศสหรัฐฯและประเทศคู่สนธิสัญญา
  • เพื่อพัฒนาและบริหารจัดการธุรกิจซึ่งผู้สมัครได้ลงทุนกับธุรกิจด้วยมูลค่ามาก

คู่สมรสและบุตรอายุต่ำกว่า 21 ปีซึ่งยังไม่ได้แต่งงาน ของผู้ค้า นักลงทุนตามสนธิสัญญา หรือ พนักงานของบริษัท สามารถยื่นคำร้องขอวีซ่าเพื่อร่วมเดินทางหรือติดตามผู้สมัครไปสหรัฐฯ ได้  และผู้สมัครไม่จำเป็นต้องมีสัญชาติเดียวกับผู้สมัครหลัก  

วีซ่าประเภท E อนุญาตให้ ผู้ค้า/นักลงทุนตามสนธิสัญญาและครอบครัวอาศัยในประเทศสหรัฐฯตามระยะเวลาที่กำหนดโดยกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ สหรัฐฯ (DHS) วีซ่าประเภท E เป็นวีซ่าชั่วคราว ซึ่งอนุญาตให้ผู้ถือวีซ่าพำนักในประเทศสหรัฐฯตามเงื่อนไขที่กำหนดตลอดอายุของวีซ่า ผู้ถือวีซ่าประเภท E ต้องมีความประสงค์ที่จะเดินทางออกจากประเทศสหรัฐฯเมื่อสถานะวีซ่าประเภท E นั้นสิ้นสุดลง ผู้ติดตามไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานที่สหรัฐฯ เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับการอนุมัติจาก กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิในสหรัฐฯ

คุณสมบัติผู้สมัครวีซ่าผู้ค้าตามสนธิสัญญา (E-1)

  • ท่านต้องเป็นพลเมืองประเทศคู่สนธิสัญญา เช่น ประเทศไทย
  • บริษัทคู่ค้าในประเทศสหรัฐฯที่ผู้สมัครจะมาทำงานต้องมีสัญชาติของประเทศคู่สนธิสัญญา หมายถึงเจ้าของประเทศคู่สนธิสัญญาต้องถือหุ้นอย่างน้อย 50 เปอร์เซนต์ของบริษัท
  • การค้าระหว่างประเทศต้องมีมูลค่ามาก บริษัทต้องประกอบธุรกิจการค้าที่มีมูลค่ามากและเป็นธุรกิจที่ทำกันอย่างต่อเนื่อง การค้าในที่นี้หมายถึงการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศในด้านของสินค้า การบริการ และ เทคโนโลยี และสินค้าที่มีการแลกเปลี่ยนต้องมีการส่งผ่านจากฝ่ายหนึ่งไปยังอีกฝ่ายหนึ่ง
  • การประกอบธุรกิจของบริษัทที่ประเทศสหรัฐฯกับประเทศคู่สนธิสัญญา ต้องมีมูลค้ามากกว่าที่ทำกับประเทศอื่นการค้าระหว่างประเทศสหรัฐฯ และ ประเทศคู่สนธิสัญญาต้องมีมูลค่ามากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์
  • ผู้สมัครต้องมีตำแหน่งผู้บริหารหรือหัวหน้า หรือมีความชำนาญเฉพาะทางขั้นสูงในการดำเนินการของบริษัท ผู้สมัครที่มีความชำนาญทั่วไปหรือไม่มีความชำนาญเลยไม่สามารถสมัครวีซ่าประเภทนี้ได้ กรุณาระบุโดยละเอียดถึงความชำนาญเฉพาะทางของผู้สมัครที่จำเป็นสำหรับบริษัทในประเทศสหรัฐฯ
  • ผู้สมัครต้องเดินทางออกจากประเทศสหรัฐฯเมื่อสถานะวีซ่าประเภท E-1 สิ้นสุดลง

คุณสมบัติผู้สมัครวีซ่านักลงทุนตามสนธิสัญญา (E-2)

  • นักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นบุคคล หุ้นส่วน หรือ นิติบุคคล ต้องมีสัญชาติของประเทศคู่สนธิสัญญา หากเป็นธุรกิจ ผู้ถือหุ้นต้องมีสัญชาติของประเทศคู่สัญญาและถือหุ้นอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์
  • การลงทุนต้องมีมูลค่ามาก และ จะต้องมีหลักฐานการลงทุนไปในธุกิจ การลงทุนต้องมีจำนวนมากพอที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในการดำเนินกิจการของบริษัท
  • การลงทุนต้องอยู่ในบริษัทที่มีการดำเนินกิจการอยู่หรือกำลังจะเปิดดำเนินการในไม่ช้า – โครงการการลงทุนและเงินลงทุนจำนวนเล็กน้อยไม่ตรงกับคุณสมบัติของวีซ่าประเภทนี้ เงินลงทุนที่ไม่มีการการันตีในบัญชีธนาคารหรือการถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ไม่มีการพัฒนาไม่ถือเป็นการลงทุน
  • การลงทุนต้องหวังผลประกอบการที่มีมูลค่า – บริษัทต้องหวังผลตอบแทนทางการเงินที่มากกว่าเงินเพียงแค่จะทำให้ธุรกิจดำรงอยู่ได้หรือบริษัทต้องมีศักยภาพในการทำกำไรเป็นจำนวนมากทั้งในปัจจุบันและอนาคต
  • นักลงทุนต้องเป็นผู้ควบคุมบริหารจัดการเงินลงทุน และ การลงทุนนั้นต้องมีความเสี่ยงในแง่ของการลงทุนในธุรกิจ– หากเงินลงทุนไม่มีความเสี่ยงขาดทุน การลงทุนนั้นไม่ถือเป็นการลงทุนตามกฎหมาย The Immigration and Nationality Act (INA) 101(a)(15)(E) เงินกู้ที่ได้จากการจำนองสินทรัพย์ของบริษัทที่ลงทุนไม่ตรงกับคุณสมบัติข้อนี้
  • นักลงทุนต้องมาประเทศสหรัฐฯเพื่อพัฒนาและบริหารบริษัท– หากผู้สมัครไม่ใช่นักลงทุนหลัก ก็ต้องเป็นผู้มีตำแหน่งบริหาร หัวหน้า หรือ มีความชำนาญเฉพาะทางพิเศษ ผู้สมัครที่มีความชำนาญทั่วไปหรือไม่มีความชำนาญเลยไม่สามารถสมัครวีซ่าประเภทนี้ได้   
  • ผู้สมัครต้องเดินทางออกจากประเทศสหรัฐฯเมื่อสถานะวีซ่าประเภท E-2 สิ้นสุดลง

วีธีการสมัครวีซ่าประเภท E-1 หรือ E-2

สถานทูตสหรัฐฯ จะพิจารณาเอกสารของท่าน เมื่อท่านได้ทำการชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า และนัดหมายสัมภาษณ์วีซ่าแล้วเท่านั้น กรุณาปฏิบัติตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อทำการนัดหมายสัมภาษณ์วีซ่า

ขั้นตอนที่ 1

กรอกใบคำร้องขอวีซ่าชั่วคราวในระบบอิเล็กทรอนิกส์ (DS-160)

ขั้นตอนที่ 2

ชำระค่าธรรมเนียมในการยื่นคำร้องขอวีซ่าและเก็บใบเสร็จค่าธรรมเนียมไว้.

ขั้นตอนที่ 3

เตรียมใบสมัครและเอกสารประกอบการสมัครตามแบบฟอร์มที่กำหนดไว้ในเว็บไซต์

คลิกที่ลิงค์ด้านล่างสำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการเตรียมเอกสารประกอบการสมัครของวีซ่าแต่ละประเภท

เอกสารประกอบการยื่นวีซ่าผู้ประกอบค้าตามสนธิสัญญาประเภท E-1

เอกสารประกอบการยื่นวีซ่านักลงทุนตามสนธิสัญญาประเภท E-2

เอกสารประกอบการยื่นวีซ่าสำหรับผู้บริหาร/ หัวหน้า ของบริษัท E-2

เอกสารประกอบการยื่นวีซ่าสำหรับพนักงานมีความชำนาญเฉพาะทางของบริษัท E-2

คำชี้แจง:  ผู้ติดตามวีซ่าประเภท E จะได้รับการพิจารณาใบสมัครพร้อมกับผู้สมัครหลัก หรือหลังจากวีซ่าผู้สมัครหลักได้รับการอนุมัติแล้วเท่านั้น หากผู้ติดตามไม่ได้สมัครวีซ่าในเวลาเดียวกันกับผู้สมัครหลัก ต้องแนบสำเนาวีซ่าผู้สมัครหลักที่ได้รับการอนุมัติและยังไม่หมดอายุแล้วเท่านั้น เด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี ไม่ต้องมาสัมภาษณ์หากยื่นเอกสารพร้อมผู้สมัครหลัก หากเด็กอายุต่ำกว่า 14 สมัครวีซ่าคนเดียว ผู้ปกครองต้องมาด้วยในวันสัมภาษณ์

วิธีการอีเมลใบสมัครและเอกสารประกอบวีซ่าประเภท E กรุณาส่งมาที่ BangkokBusinessTravel@state.gov หัวข้ออีเมลให้ระบุ: นามสกุล และ ชื่อ-วันนัดสัมภาษณ์วีซ่าประเภท E เช่น หากท่านชื่อ John Doe ให้ท่านระบุในหัวข้ออีเมลว่า: Doe, John-E visa หลังจากที่ท่านส่งใบสมัครของท่าน ท่านจะได้รับอีเมลยืนยัน ท่านสามารถเขียนอีเมลไปยังที่อยู่ข้างต้นหากท่านไม่ได้รับอีเมลยืนยันภายในสองวันหลังจากที่ท่านส่งใบสมัครทางอีเมล

ขั้นตอนที่ 4

ส่งใบสมัครและเอกสารประกอบการสมัครมายัง BangkokBusinessTravel@state.gov.

ขั้นตอนที่ 5

กรุณารอทางสถานทูตตอบกลับเพื่อยืนยันว่า ทางสถานทูตได้รับใบสมัครและเอกสารประกอบการสมัครของท่านอย่างครบถ้วนและได้รับการพิจารณาเบื้องต้นแล้ว

ขั้นตอนที่ 6

ทำการนัดสัมภาษณ์วีซ่าผ่านเว็บนี้ ท่านจะต้องใช้ข้อมูลต่อไปนี้ในการทำนัดสัมภาษณ์

  • หมายเลขหนังสือเดินทางของท่าน
  • เลขที่อ้างอิง Virtual Account ID/EFT Account Number ที่ท่านใช้ในการชำระเงินด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือเลขที่อ้างอิง CGI ที่ปรากฏบนใบเสร็จชำระเงินค่าธรรมเนียมวีซ่าของท่าน (โปรดคลิก ที่นี่ หากท่านต้องการความช่วยเหลือในการค้นหาหมายเลขดังกล่าว)
  • หมายเลขบาร์โค้ดสิบหลักที่ระบุไว้บนหน้ายืนยันแบบฟอร์ม DS-160
ขั้นตอนที่ 7

มาที่สถานทูตสหรัฐฯ ก่อนเวลานัดสัมภาษณ์ 15 นาทีตามวันที่ท่านมีนัดสัมภาษณ์ สถานกงสุลเชียงใหม่ไม่รับใบสมัครและสัมภาษณ์วีซ่าประเภท E ท่านต้องนำใบยืนยันนัดสัมภาษณ์ ใบยืนยัน DS-160 ของท่าน รูปถ่ายที่ถ่ายไว้ไม่เกินหกเดือนหนึ่งใบ หนังสือเดินทางเล่มปัจจุบันและเล่มเก่าทั้งหมดและใบเสร็จการชำระเงินค่าธรรมเนียมวีซ่าตัวจริงมาด้วย ใบคำร้องขอวีซ่าที่ไม่มีเอกสารทั้งหมดดังกล่าวจะไม่ได้รับการพิจารณา

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

เข้าดูที่เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐฯ วีซ่าสำหรับผู้ประกอบการค้าและผู้ลงทุนตามสนธิสัญญา หากท่านมีคำถามเพิ่มเติม โปรดส่งอีเมลมาที่ BangkokBusinessTravel@state.gov

หากท่านไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านล่างจะส่งผลให้การนัดสัมภาษณ์สัมภาษณ์ของท่านเกิดความล่าช้า

  1. ข้าพเจ้าได้ใช้เทมเพลตที่ถูกต้องกับประเภทวีซ่าและจัดเอกสารได้ถูกต้องตามแถบ https://th.usembassy.gov/th/visas-th/nonimmigrant-visas-th/
  2. ข้าพเจ้าได้ส่งใบสมัครและเอกสารประกอบการสมัครตามคำแนะนำอย่างครบถ้วน
  3. ใบสมัครและเอกสารประกอบการสมัครของข้าพเจ้าไม่เกิน70หน้า
  4. ไฟล์ใบสมัครและเอกสารประกอบการสมัครของข้าพเจ้าไม่เกิน 50 เมกกะไบต์

**กรุณาอย่าส่งเอกสารอื่นๆมาเพิ่มเติมนอกเหนือจากรายการเอกสารที่ได้ระบุตามเว็บไซต์ https://ustraveldocs.com/th/th-niv-typee.asp

โปรดทราบ:

ท่านจะไม่สามารถทำนัดสัมภาษณ์ได้จนกว่าทางสถานทูตยืนยันว่าได้รับเอกสารประกอบการสมัครและกระบวนการพิจารณาเบื้องต้นได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว

เอกสารที่จำเป็นในการประกอบการยื่นวีซ่าผู้ค้าตามสนธิสัญญาประเภท E-1

ใบสมัครต้องจัดเป็นส่วนให้ชัดเจนคั่นด้วยแถบตัวอักษร เอกสารแต่ละส่วนต้องมีแถบตัวอักษรระบุชัดเจนตามวิธีด้านล่าง

แถบ A

DS 160

สำหรับผู้สมัครหลักและผู้ติดตาม: หน้ายืนยันใบสมัครออนไลน์ DS-160 

แถบ B

ข้อมูลชีวประวัติ

สำหรับผู้สมัครหลักและผู้ติดตามในฐานะครอบครัว:

  • สำเนาหน้าข้อมูล (สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนสมรส สูติบัตร หรือ ใบรับรองบุตรบุญธรรม (ตามความเหมาะสม) โปรดทราบ: หากผู้ติดตามไม่สมัครวีซ่าในเวลาเดียวกันกับผู้สมัครหลัก ต้องแนบสำเนาวีซ่าผู้สมัครหลักที่ได้รับการอนุมัติและยังไม่หมดอายุแล้วเท่านั้น
  • นอกจากนี้หากคู่สมรสกำลังต่ออายุวีซ่าทำงานในสหรัฐฯ กรุณาแนบสำเนาใบอนุญาตทำงานมาด้วย

แถบ C

DS 156E
ใบคำร้อง DS-156E กรุณาใส่อีเมลในส่วนของข้อมูลที่ติดต่อกลับ

แถบ D

จดหมายนำ

จดหมายนำระบุรายละเอียดเกี่ยวกับบริษัท ตำแหน่งของผู้สมัครวีซ่า ซึ่งต้องระบุคุณสมบัติทั้งหมดที่กำหนดโดยข้อกำหนดกระทรวงต่างประเทศและกฎหมายสหรัฐฯ โดยต้องระบุรายละเอียดดังนี้:

  • บริษัทคู่ค้าของประเทศคู่สนธิสัญญาถือหุ้นอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ของบริษัท ตามข้อกำหนด FAM 402.9-4(B)
  • การลงทุนต้องมีมูลค่ามาก ตามข้อกำหนด 9FAM 402.9-5(C)
  • การค้าที่เกิดขึ้นระหว่างสหรัฐฯและประเทศสนธิสัญญาตามข้อกำหนด 9FAM 402.9-5(D)
  • ผู้สมัครดำรงตำแหน่งผู้บริหารหรือหัวหน้างานตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-7(B) หรือมีทักษะสำคัญกับการดำเนินการของบริษัท ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-7(C)
  • ผู้สมัครต้องเดินทางออกจากประเทศสหรัฐฯเมื่อสถานะวีซ่าประเภท E สิ้นสุดลง ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-4 (C)

แถบ E

การแสดงความเป็น

เจ้าของกิจการ

หลักฐานที่ระบุความเป็นเจ้าของ และ ควบคุมผลประโยชน์ของบริษัทของประเทศคู่สนธิสัญญา ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-4(B)

  • ชื่อเจ้าของบริษัทและจำนวนสัดส่วนการถือหุ้นของแต่ละคน
  • สำหรับบริษัทแบบ corporations ท่านอาจเตรียมเอกสารดังนี้:
    • หนังสือรับรองบริษัท ใบหุ้น บัญชีการถือหุ้น ฯลฯ
    • หนังสือรับรองสัดส่วนในการถือหุ้นของเจ้าของ เช่น สัดส่วนหุ้นที่ถือโดยบริษัท และสัดส่วนหุ้นที่ถือโดยบุคคล
    • โครงสร้างองค์กร
    • หากบริษัทอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศคู่สนธิสัญญา ให้แนบหลักฐานราคาหุ้นล่าสุด
  • สำหรับบริษัทprivate companies ท่านอาจเตรียมเอกสารดังนี้:
    • หนังสือรับรองบริษัท หนังสือจดทะเบียนเป็นเจ้าของกิจการ หนังสือรับรองการจดทะเบียนธุรกิจ

แถบ F

การประกอบธุรกิจ

ต้องมีมูลค่ามาก

หลักฐานแสดงให้เห็นว่าการประกอบธุรกิจมีมูลค่ามากพอของธุตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-5(C)

  • ผลรวมของการประกอบธุรกิจอย่างน้อย1ปี มูลค่าของการซื้อขายในแต่ละครั้งและรายการบริษัทที่เป็นคู่ค้าทางธุรกิจ
  • ใบตราส่งสินค้าทางเรือ ใบตราส่งสินค้าทางอากาศ และหลักฐานการชำระเงินจากหรือถึงประเทศสหรัฐฯ ไม่ต่ำกว่า 6 เดือนย้อนหลัง
  • รายการคืนภาษีธุรกิจ สามครั้งล่าสุด:
    • LLC: ฟอร์ม 1065, หน้า 1-5, รวม Schedule B1 และ Schedule K1
    • การเป็นเจ้าของกิจการเอกชน: ฟอร์ม 1040, หน้า 1-2, รวม Schedule G รวม Schedule C
    • บริษัทแบบcorporate: ฟอร์ม 1120, หน้า 1-5, รวม, Schedule G และ/หรือ Schedule K1
  • หลักฐานอื่นๆที่ระบุว่าธุรกิจมีมูลค่ามากพอ

แถบ G

การค้าหลัก

หลักฐานที่แสดงว่าธุรกิจนี้เป็นการค้าหลักระหว่างบริษัทในสหรัฐฯและประเทศคู่สนธิสัญญา ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-5(D)

  • ใบแจ้งหนี้และ/หรือใบเสร็จรับเงินจากศุลกากรประเทศสหรัฐฯ
  • หลักฐานอื่นๆที่ระบุว่าอย่างน้อย 50% ของการค้า เป็นการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่สนธิสัญญา เอกสารควรแสดงให้เห็นว่ามีการประกอบธุรกิจและการดำเนินกิจการอย่างต่อเนื่องในประเทศคู่สนธิสัญญา

แถบ H

ข้อมูลพนักงาน

E-1 ผู้บริหาร ผู้จัดการ หัวหน้า ผู้มีความชำนาญเฉพาะทางหรือมีทักษะสำคัญกับการดำเนินการของบริษัท  ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-7(B)

  • จดหมายจากบริษัทที่ต้องการสมัครวีซ่าประเภท E ระบุข้อมูลเจาะจงถึงผู้สมัคร และเหตุผลในการว่าจ้างให้เขาหรือเธอไปทำงานในประเทศสหรัฐฯ จดหมายควรอธิบายบทบาทของพนักงานในบริษัท (ตำแหน่ง และ หน้าที่) ความรับผิดชอบในตำแหน่งบริหาร หัวหน้างาน หรือ ความชำนาญเฉพาะทางของผู้สมัคร รวมถึง การเลื่อนขั้น หรือ การอบรมคุณสมบัติความชำนาญเฉพาะทางขั้นสูง และ เหตุผลที่อธิบายว่าพลเมืองสหรัฐฯหรือผู้ถือLPRไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่นี้ได้ (หากไม่ใช่ตำแหน่งบริหาร หรือ หัวหน้างาน)
  • จดหมายจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของบริษัท หรือ จดหมายระบุถึงความต้องการในการว่าจ้างพนักงานดังกล่าว
  • หลักฐานว่าเคยดำรงตำแหน่งในฐานะผู้บริหาร หัวหน้า ผู้ที่มีความชำนาญเฉพาะทางของผู้สมัคร ประวัติการศึกษา ประสบการณ์ ทักษะหรือการอบรม เช่น ใบประกาศนียบัตร ประวัติการทำงาน ใบผ่านการฝึกอบรม ใบสำเร็จการศึกษา หรือ หนังสือรับรองผลการเรียน
  • การต่ออายุวีซ่า:กรุณายื่นรายการคืนภาษีธุรกิจ สามครั้งล่าสุด

แถบ I

โครงสร้างบริษัท

  • โครงสร้างซึ่งระบุชื่อตำแหน่ง สถานภาพตามกฎหมาย เช่นเป็นชาวอเมริกัน ผู้ถือLPR ผู้ถือวีซ่า E หรืออื่นๆ ของพนักงานที่ทำงานในบริษัทที่สหรัฐฯ
  • กรุณาแนบสำเนาหน้าวีซ่าประเภทEของพนักงาน/ลูกจ้างทุกคนที่กำลังทำงานอยู่ในสถานประกอบการของท่าน เอกสารดังกล่าวนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญประกอบการพิจารณา นอกจากนี้โปรดแนบสำเนาหน้าวีซ่าประเภทEของผู้ติดตามผู้ถือวีซ่าประเภทE2ทุกคนที่ทำงานที่สถานประกอบการของท่านไม่ว่าพวกเขากำลังทำงานอยู่หรือไม่ก็ตาม สำหรับผู้ติดตามผู้ถือวีซ่าประเภทEที่กำลังทำงานอยู่ในสหรัฐอเมริกาไม่ว่าจะเป็นที่สถานประกอบการของท่านหรือที่อื่นๆ โปรดแนบสำเนาหนังสืออนุญาตการทำงานที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (USCIS)

แถบ J

G 28

G-28 “หนังสือแจ้งว่าผู้ใดคือทนายหรือตัวแทน” (ตามความเหมาะสม) พร้อมทั้งระบุที่อยู่อีเมลและหมายเลขโทรศัพท์เพื่อความสะดวกในการติดต่อกลับ

เอกสารประกอบการยื่นวีซ่านักลงทุนตามสนธิสัญญาประเภท E-2

ใบสมัครต้องจัดเป็นส่วนให้ชัดเจนคั่นด้วยแถบตัวอักษร เอกสารแต่ละส่วนต้องมีแถบตัวอักษรระบุชัดเจนตามวิธีด้านล่าง

แถบ A

DS 160

สำหรับผู้สมัครหลักและผู้ติดตาม: หน้ายืนยันใบสมัครออนไลน์ DS-160 

แถบ B

ข้อมูลชีวประวัติ

สำหรับผู้สมัครหลักและผู้ติดตามในฐานะครอบครัว:

  • สำเนาหน้าข้อมูล (สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนสมรส สูติบัตร หรือ ใบรับรองบุตรบุญธรรม (ตามความเหมาะสม) โปรดทราบ: หากผู้ติดตามไม่สมัครวีซ่าในเวลาเดียวกันกับผู้สมัครหลัก ต้องแนบสำเนาวีซ่าผู้สมัครหลักที่ได้รับการอนุมัติและยังไม่หมดอายุแล้วเท่านั้น
  • นอกจากนี้หากคู่สมรสกำลังต่ออายุวีซ่าทำงานในสหรัฐฯ กรุณาแนบสำเนาใบอนุญาตทำงานมาด้วย
  • โปรดแนบประวัติการทำงาน การศึกษา และ ประกาศนียบัตร

แถบ C

DS 156E
ใบคำร้อง DS-156E กรุณาใส่อีเมลในส่วนของข้อมูลที่ติดต่อกลับ

แถบ D

จดหมายนำ

จดหมายนำซึ่งแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับบริษัท ตำแหน่ง ของผู้สมัครวีซ่า ซึ่งต้องระบุคุณสมบัติทั้งหมด โดยข้อมูลในจดหมายต้องระบุคุณสมบัติที่จำเป็นของวีซ่าประเภท E ซึ่งกำหนดโดย กระทรวงต่างประเทศและกฎหมายสหรัฐฯ ดังต่อไปนี้:

  • บริษัทคู่ค้าของประเทศคู่สนธิสัญญาถือหุ้นอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ของบริษัท ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-4(B)
  • นักลงทุนได้ลงทุน หรือ อยู่ในขั้นตอนที่จะเปิดกิจการในเร็วๆนี้ ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-6 (B)
  • บริษัทกำลังดำเนินกิจการ หรือ กำลังจะดำเนินการลงทุนโดยในทันที ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-6 (C)
  • หลักฐานที่ยืนยันว่าการลงทุนดังกล่าวมีมูลค่ามาก ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-6 (D)
  • การลงทุนดังกล่าวมีผลตอบแทนที่มากกว่าแค่การดำรงอยู่ของธุรกิจ ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-6 (E)
  • นักลงทุนต้องอยู่ในตำแหน่งพัฒนาและบริหารบริษัท หรือ ต้องเป็นผู้มีตำแหน่งบริหาร หัวหน้า หรือ มีความชำนาญเฉพาะทางพิเศษ ซึ่งมีความสำคัญกับการประกอบกิจการของบริษัท ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-6 (F)
  • ผู้สมัครต้องเดินทางออกจากประเทศสหรัฐฯเมื่อสถานะวีซ่าประเภท E สิ้นสุดลง ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-4 (C)

แถบ E

การแสดงความเป็น

เจ้าของกิจการ

หลักฐานที่ระบุความเป็นเจ้าของประเทศคู่สนธิสัญญา และ ควบคุมผลประโยชน์ของบริษัทของประเทศคู่สนธิสัญญา ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-4(B)

  • ชื่อเจ้าของบริษัทและจำนวนสัดส่วนการถือหุ้นของแต่ละคน
  • สำหรับบริษัท ท่านอาจเตรียมเอกสารดังนี้:
    • หนังสือรับรองบริษัท ใบหุ้น บัญชีการถือหุ้น ฯลฯ
    • หนังสือรับรองสัดส่วนในการถือหุ้นของเจ้าของ เช่น สัดส่วนหุ้นที่ถือโดยบริษัท และสัดส่วนหุ่นที่ถือโดยบุคคล
    • โครงสร้างองค์กร
    • หากบริษัทอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศคู่สรธิสัญญา ให้แนบหลักฐานราคาหุ้นล่าสุด
  • สำหรับบริษัทเอกชน ท่านเตรียมเอกสารดังนี้:
    • หนังสือรับรองบริษัท หนังสือจดทะเบียนเป็นเจ้าของกิจการ หนังสือรับรองการจดทะเบียนธุรกิจ
    • หลักฐานอื่นๆที่แสดงถึงการเป็นเจ้าของกิจการ

แถบ F

การประกอบธุรกิจ

ต้องมีมูลค่ามากพอ

หลักฐานที่ระบุว่ามีการลงทุนมีมูลค่ามากพอ ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-6 (D)

  • สำหรับบริษัทที่เริ่มดำเนินการแล้ว ท่านอาจยื่นเอกสารดังต่อไปนี้:
    • การประเมินภาษี
    • การประเมินทางการตลาด
  • สำหรับบริษัทใหม่ (แสดงต้นทุนการจัดตั้งบริษัทโดยประมาณ)ท่านอาจยื่นเอกสารดังต่อไปนี้:
    • การประเมินทางการตลาด
    • การประเมินจากหอการค้า
    • ข้อมูลสถิติจากองค์กรการค้า

แถบ G

ขั้นตอนการลงทุน

หลักฐานที่ระบุว่ามีการลงทุนจริง หรือนักลงทุนผู้นั้นกำลังจะดำเนินการลงทุนในเร็วๆนี้ หรือจะเปิดดำเนินการลงทุนโดยในทันที ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-6 (B)

  • โปรดระบุชื่อ สัญชาติ และจำนวนเงินลงทุนทั้งหมดสำหรับเจ้าของ/หุ้นส่วนแต่ละรายของธุรกิจนี้
  • จัดระเบียบเอกสารในแท็บนี้ตามลำดับเวลาจากเก่าสุดไปใหม่สุด
  • ระบุเอกสารธุรกรรมการลงทุนแต่ละรายการให้ชัดเจนเพื่อรวมทั้งวันที่ทำรายการและจำนวนเงินลงทุนจำนวนรายการและแหล่งเงินทุน (การขายทรัพย์สิน มรดก ฯลฯ)

แถบ H

การดำเนินการปัจจุบัน

หลักฐานที่ระบุว่ามีธุรกิจกำลังดำเนินการอยู่ หรือธุรกิจกำลังเปิดดำเนินการในเร็วๆนี้ ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-6 (C)

  • ใบเสร็จรับเงิน หรือ ใบแจ้งหนี้ รายชื่อลูกค้า จดหมายจากลูกค้า
  • สัญญาเช่า
  • รูปถ่ายของกิจการ รีวิวจากโซเชียลมีเดีย ฯลฯ

แถบ I

ผลกำไร

หลักฐานแสดงผลการประกอบธุรกิจที่ได้กำไร ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-6(E)

  • หลักฐานการคืนภาษีย้อนหลัง3เดือน
    • LLC: ฟอร์ม 1065, หน้า 1-5, รวม Schedule B1 และ Schedule K1
    • การเป็นเจ้าของกิจการprivate: ฟอร์ม 1040,  pages 1-2รวม Schedule C
    • Corporations: ฟอร์ม 1120,  หน้า 1-5, รวม, Schedule G และ/หรือ Schedule K1
  • ฟอร์ม IRS W2 ครั้งล่าสุดสำหรับพนักงานทุกคน
  • เอกสารคืนเงินภาษีสามครั้งล่าสุดของผู้ลงทุน/เจ้าของกิจการ

แถบ J

แผนธุรกิจ
  • แผนธุรกิจในอีกห้าปีข้างหน้า รวมถึง การประเมินค่าใช้จ่ายและกำไรแผนจะต้องแสดงถึงศักยภาพของกิจการในการที่จะทำกำไรภายใน5ปี

แถบ K

โครงสร้างองค์กร
  • โครงสร้างซึ่งระบุชื่อตำแหน่ง สถานภาพตามกฎหมาย เช่นเป็นชาวอเมริกัน ผู้ถือLPR ผู้ถือวีซ่า E หรืออื่นๆ ของพนักงานที่ทำงานในบริษัทที่สหรัฐฯ
  • กรุณาแนบสำเนาหน้าวีซ่าประเภทEของพนักงาน/ลูกจ้างทุกคนที่กำลังทำงานอยู่ในสถานประกอบการของท่าน เอกสารดังกล่าวนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญประกอบการพิจารณา นอกจากนี้โปรดแนบสำเนาหน้าวีซ่าประเภทEของผู้ติดตามผู้ถือวีซ่าประเภทE2ทุกคนที่ทำงานที่สถานประกอบการของท่านไม่ว่าพวกเขากำลังทำงานอยู่หรือไม่ก็ตาม สำหรับผู้ติดตามผู้ถือวีซ่าประเภทEที่กำลังทำงานอยู่ในสหรัฐอเมริกาไม่ว่าจะเป็นที่สถานประกอบการของท่านหรือที่อื่นๆ โปรดแนบสำเนาหนังสืออนุญาตการทำงานที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (USCIS)

แถบ L

G-28
G-28 “หนังสือแจ้งว่าผู้ใดคือทนายหรือตัวแทน” (ตามความเหมาะสม) พร้อมทั้งระบุที่อยู่อีเมลและหมายเลขโทรศัพท์เพื่อความสะดวกในการติดต่อกลับ

เอกสารประกอบการยื่นวีซ่าสำหรับผู้บริหาร/ หัวหน้า ของบริษัท E-2

ใบสมัครต้องจัดเป็นส่วนให้ชัดเจนคั่นด้วยแถบตัวอักษรซึ่งจะมีการเขียนหัวข้อต่างๆ ตามที่กล่าวได้ในตารางด้านล่าง

แถบ A

DS 160

สำหรับผู้สมัครหลักและผู้ติดตาม: หน้ายืนยันใบสมัครออนไลน์ DS-160 

แถบ B

ข้อมูลชีวประวัติ

สำหรับผู้สมัครหลักและผู้ติดตามในฐานะครอบครัว:

  • สำเนาหน้าข้อมูล (สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนสมรส สูติบัตร หรือ ใบรับรองบุตรบุญธรรม (ตามความเหมาะสม) โปรดทราบ: หากผู้ติดตามไม่สมัครวีซ่าในเวลาเดียวกันกับผู้สมัครหลัก ต้องแนบสำเนาวีซ่าผู้สมัครหลักที่ได้รับการอนุมัติและยังไม่หมดอายุแล้วเท่านั้น
  • นอกจากนี้หากคู่สมรสกำลังต่ออายุวีซ่าทำงานในสหรัฐฯ กรุณาแนบสำเนาใบอนุญาตทำงานมาด้วย

แถบ C

DS 156E

ใบคำร้อง DS-156E กรุณาใส่อีเมลในส่วนของข้อมูลที่ติดต่อกลับ

แถบ D

ข้อมูลพนักงาน

คุณสมบัติของผู้บริหาร ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-7(B)

  • เหตุผลที่พลเมืองสหรัฐฯ หรือ Legal Permanent Resident ไม่สามารถทำตำแหน่งนี้ได้
  • ประวัติการทำงานของผู้สมัคร ปริญญาบัตร ใบประกาศนียบัตร ฯลฯ
  • จดหมายการจ้างงานจากนายจ้างคนก่อน
  • การต่ออายุวีซ่า: กรุณายื่นรายการคืนภาษีธุรกิจ สามครั้งล่าสุด

แถบ E

โครงสร้างองค์กร

  • โครงสร้างซึ่งระบุชื่อตำแหน่ง สถานภาพตามกฎหมาย เช่นเป็นชาวอเมริกัน ผู้ถือLPR ผู้ถือวีซ่า E หรืออื่นๆ ของพนักงานที่ทำงานในบริษัทที่สหรัฐฯ
  • กรุณาแนบสำเนาหน้าวีซ่าประเภทEของพนักงาน/ลูกจ้างทุกคนที่กำลังทำงานอยู่ในสถานประกอบการของท่าน เอกสารดังกล่าวนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญประกอบการพิจารณา นอกจากนี้โปรดแนบสำเนาหน้าวีซ่าประเภทEของผู้ติดตามผู้ถือวีซ่าประเภทE2ทุกคนที่ทำงานที่สถานประกอบการของท่านไม่ว่าพวกเขากำลังทำงานอยู่หรือไม่ก็ตาม สำหรับผู้ติดตามผู้ถือวีซ่าประเภทEที่กำลังทำงานอยู่ในสหรัฐอเมริกาไม่ว่าจะเป็นที่สถานประกอบการของท่านหรือที่อื่นๆ โปรดแนบสำเนาหนังสืออนุญาตการทำงานที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (USCIS)

แถบ F

สัญญาการจ้างงาน

  • สัญญาการจ้างงานลงนามโดยนายจ้างและพนักงาน 
  • โปรดทราบ สัญญาว่าจ้างงานต้องระบุชั่วโมงการทำงานของพนักงาน เงินเดือน และผลประโยชน์อื่นๆ

แถบ G

ข้อมูลนายจ้าง

เพิ่มเติม กรุณาเตรียมรายละเอียดเกี่ยวกับนายจ้าง:

  • รายการคืนภาษีธุรกิจ สามครั้งล่าสุด:
    • LLC: ฟอร์ม 1065, หน้า 1-5, รวม Schedule B1 และ Schedule K1
    • การเป็นเจ้าของกิจการเอกชน: ฟอร์ม 1040,  pages 1-2, รวม  Schedule C
    • บริษัท: ฟอร์ม 1120,  หน้า 1-5, รวม, Schedule G และ/หรือ Schedule K1
  • ฟอร์ม IRS W2 ครั้งล่าสุดสำหรับพนักงานทุกคน
  • สัญญาเช่า
  • รูปถ่ายของบริษัท รีวิวจากโซเชียลมีเดีย ฯลฯ
  • เอกสารคืนเงินภาษีสามครั้งล่าสุดของผู้ลงทุน/เจ้าของกิจการ

แถบ H

G 28

G-28 “หนังสือแจ้งว่าผู้ใดคือทนายความหรือตัวแทน” (ตามความเหมาะสม) พร้อมทั้งระบุที่อยู่อีเมลและหมายเลขโทรศัพท์เพื่อความสะดวกในการติดต่อกลับ

เอกสารประกอบการยื่นวีซ่าสำหรับพนักงานมีความชำนาญเฉพาะทางของบริษัท E-2

แถบ A

DS 160
สำหรับผู้สมัครหลักและผู้ติดตาม: หน้ายืนยันใบสมัครออนไลน์ DS-160 

แถบ B

ข้อมูลชีวประวัติ

สำหรับผู้สมัครหลักและผู้ติดตามในฐานะครอบครัว:

  • สำเนาหน้าข้อมูล (สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนสมรส สูติบัตร หรือ ใบรับรองบุตรบุญธรรม (ตามความเหมาะสม) โปรดทราบ: หากผู้ติดตามไม่สมัครวีซ่าในเวลาเดียวกันกับผู้สมัครหลัก ต้องแนบสำเนาวีซ่าผู้สมัครหลักที่ได้รับการอนุมัติและยังไม่หมดอายุแล้วเท่านั้น
  • นอกจากนี้หากคู่สมรสกำลังต่ออายุวีซ่าทำงานในสหรัฐฯ กรุณาแนบสำเนาใบอนุญาตทำงานมาด้วย

แถบ C

DS 156E

ใบคำร้อง DS-156E กรุณาใส่อีเมลในส่วนของข้อมูลที่ติดต่อกลับ

แถบ D

ข้อมูลพนักงาน

คุณสมบัติของผู้บริหาร ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-7(B)

  • เหตุผลที่พลเมืองสหรัฐฯ หรือ Legal Permanent Resident ไม่สามารถทำตำแหน่งนี้ได้
  • ประวัติการทำงานของผู้สมัคร ปริญญาบัตร ใบประกาศนียบัตร ฯลฯ
  • จดหมายการจ้างงานจากนายจ้างคนก่อน
  • การต่ออายุวีซ่า: กรุณายื่นรายการคืนภาษีธุรกิจ สามครั้งล่าสุด

แถบ E

โครงสร้างองค์กร

  • โครงสร้างซึ่งระบุชื่อตำแหน่ง สถานภาพตามกฎหมาย เช่นเป็นชาวอเมริกัน ผู้ถือLPR ผู้ถือวีซ่า E หรืออื่นๆ ของพนักงานที่ทำงานในบริษัทที่สหรัฐฯ
  • กรุณาแนบสำเนาหน้าวีซ่าประเภทEของพนักงาน/ลูกจ้างทุกคนที่กำลังทำงานอยู่ในสถานประกอบการของท่าน เอกสารดังกล่าวนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญประกอบการพิจารณา นอกจากนี้โปรดแนบสำเนาหน้าวีซ่าประเภทEของผู้ติดตามผู้ถือวีซ่าประเภทE2ทุกคนที่ทำงานที่สถานประกอบการของท่านไม่ว่าพวกเขากำลังทำงานอยู่หรือไม่ก็ตาม สำหรับผู้ติดตามผู้ถือวีซ่าประเภทEที่กำลังทำงานอยู่ในสหรัฐอเมริกาไม่ว่าจะเป็นที่สถานประกอบการของท่านหรือที่อื่นๆ โปรดแนบสำเนาหนังสืออนุญาตการทำงานที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (USCIS)

แถบ F

สัญญาการจ้างงาน

  • สัญญาการจ้างงานลงนามโดยนายจ้างและพนักงาน 
  • โปรดทราบ สัญญาว่าจ้างงานต้องระบุชั่วโมง การทำงานของพนักงาน เงินเดือน และผลประโยชน์อื่นๆ

แถบ G

ข้อมูลนายจ้าง

เพิ่มเติม กรุณาเตรียมรายละเอียดเกี่ยวกับนายจ้าง:

  • รายการคืนภาษีธุรกิจ สามครั้งล่าสุด:
    • LLC: ฟอร์ม 1065, หน้า 1-5, รวม Schedule B1 และ Schedule K1
    • การเป็นเจ้าของกิจการprivate: ฟอร์ม 1040,  pages 1-2, รวม  Schedule C
    • Corporation: ฟอร์ม 1120,  หน้า 1-5, รวม, Schedule G และ/หรือ Schedule K1
  • ฟอร์ม IRS W2 ครั้งล่าสุดสำหรับพนักงานทุกคน
  • สัญญาเช่า
  • รูปถ่ายของบริษัท รีวิวจากโซเชียลมีเดีย ฯลฯ
  • เอกสารคืนเงินภาษีสามครั้งล่าสุดของผู้ลงทุน/เจ้าของกิจการ

แถบ H

G 28

G-28 “หนังสือแจ้งว่าผู้ใดคือทนายความหรือตัวแทน” (ตามความเหมาะสม) พร้อมทั้งระบุที่อยู่อีเมล์และหมายเลขโทรศัพท์เพื่อความสะดวกในการติดต่อกลับ