วีซ่าผู้ค้าหรือนักลงทุนตามสนธิสัญญา
ในหน้านี้:
- ข้อมูลทั่วไป
- คุณสมบัติผู้สมัครวีซ่าผู้ค้าตามสนธิสัญญา (E-1)
- คุณสมบัติผู้สมัครวีซ่านักลงทุนตามสนธิสัญญา (E-2)
- วิธีการสมัครวีซ่าประเภทE-1 หรือ E-2 Visa
- ข้อมูลเพิ่มเติม
- เอกสารประกอบการยื่นวีซ่าประเภท E1 Treaty Trader
- เอกสารประกอบการยื่นวีซ่าประเภท E2 Treaty Investor
- เอกสารประกอบการยื่นวีซ่าสำหรับตำแน่งผู้บริหารหรือหัวหน้าของบริษัท E-2
- เอกสารประกอบการยื่นวีซ่าสำหรับพนักงานวิชาชีพเฉพาะบริษัท E-2
ข้อมูลทั่วไป
วีซ่าผู้ค้า (E-1) และนักลงทุนตามสนธิสัญญา (E-2) เป็นวีซ่าสำหรับพลเมืองของประเทศซึ่งประเทศสหรัฐอเมริกาได้ทำสนธิสัญญาทางการค้าและการเดินเรือด้วย ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศคู่สนธิสัญญาดังกล่าว สำหรับรายชื่อประเทศที่มีสนธิสัญญาการค้าขายกับสหรัฐฯ คลิกที่นี่
เพื่อที่จะมีคุณสมบัติเป็นผู้สมัครวีซ่าผู้ค้า (E-1) และนักลงทุนตามสนธิสัญญา (E-2) ท่านต้องมาที่ประเทศสหรัฐฯ เพื่อ:
- ประกอบธุรกิจซึ่งมีมูลค่ามากและประเภทของธุรกิจดังกล่าวอาจหมายรวมถึงการให้บริการหรืองานด้านเทคโนโลยีซึ่งเป็นกิจกรรมที่เป็นไปตามข้อตกลงร่วมกันและเป็นการค้าหลักๆระหว่างประเทศสหรัฐฯและประเทศคู่สนธิสัญญา
- เพื่อพัฒนาและบริหารจัดการธุรกิจซึ่งผู้สมัครได้ลงทุนกับธุรกิจด้วยมูลค่ามาก
คู่สมรสและบุตรอายุต่ำกว่า 21 ปีซึ่งยังไม่ได้แต่งงาน ของผู้ค้า นักลงทุนตามสนธิสัญญา หรือ พนักงานของบริษัท สามารถยื่นคำร้องขอวีซ่าเพื่อร่วมเดินทางหรือติดตามผู้สมัครไปสหรัฐฯ ได้ และผู้สมัครไม่จำเป็นต้องมีสัญชาติเดียวกับผู้สมัครหลัก
วีซ่าประเภท E อนุญาตให้ ผู้ค้า/นักลงทุนตามสนธิสัญญาและครอบครัวอาศัยในประเทศสหรัฐฯตามระยะเวลาที่กำหนดโดยกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ สหรัฐฯ (DHS) วีซ่าประเภท E เป็นวีซ่าชั่วคราว ซึ่งอนุญาตให้ผู้ถือวีซ่าพำนักในประเทศสหรัฐฯตามเงื่อนไขที่กำหนดตลอดอายุของวีซ่า ผู้ถือวีซ่าประเภท E ต้องมีความประสงค์ที่จะเดินทางออกจากประเทศสหรัฐฯเมื่อสถานะวีซ่าประเภท E นั้นสิ้นสุดลง ผู้ติดตามไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานที่สหรัฐฯ เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับการอนุมัติจาก กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิในสหรัฐฯ
คุณสมบัติผู้สมัครวีซ่าผู้ค้าตามสนธิสัญญา (E-1)
- ท่านต้องเป็นพลเมืองประเทศคู่สนธิสัญญา เช่น ประเทศไทย
- บริษัทคู่ค้าในประเทศสหรัฐฯที่ผู้สมัครจะมาทำงานต้องมีสัญชาติของประเทศคู่สนธิสัญญา หมายถึงเจ้าของประเทศคู่สนธิสัญญาต้องถือหุ้นอย่างน้อย 50 เปอร์เซนต์ของบริษัท
- การค้าระหว่างประเทศต้องมีมูลค่ามาก บริษัทต้องประกอบธุรกิจการค้าที่มีมูลค่ามากและเป็นธุรกิจที่ทำกันอย่างต่อเนื่อง การค้าในที่นี้หมายถึงการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศในด้านของสินค้า การบริการ และ เทคโนโลยี และสินค้าที่มีการแลกเปลี่ยนต้องมีการส่งผ่านจากฝ่ายหนึ่งไปยังอีกฝ่ายหนึ่ง
- การประกอบธุรกิจของบริษัทที่ประเทศสหรัฐฯกับประเทศคู่สนธิสัญญา ต้องมีมูลค้ามากกว่าที่ทำกับประเทศอื่นการค้าระหว่างประเทศสหรัฐฯ และ ประเทศคู่สนธิสัญญาต้องมีมูลค่ามากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์
- ผู้สมัครต้องมีตำแหน่งผู้บริหารหรือหัวหน้า หรือมีความชำนาญเฉพาะทางขั้นสูงในการดำเนินการของบริษัท ผู้สมัครที่มีความชำนาญทั่วไปหรือไม่มีความชำนาญเลยไม่สามารถสมัครวีซ่าประเภทนี้ได้ กรุณาระบุโดยละเอียดถึงความชำนาญเฉพาะทางของผู้สมัครที่จำเป็นสำหรับบริษัทในประเทศสหรัฐฯ
- ผู้สมัครต้องเดินทางออกจากประเทศสหรัฐฯเมื่อสถานะวีซ่าประเภท E-1 สิ้นสุดลง
คุณสมบัติผู้สมัครวีซ่านักลงทุนตามสนธิสัญญา (E-2)
- นักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นบุคคล หุ้นส่วน หรือ นิติบุคคล ต้องมีสัญชาติของประเทศคู่สนธิสัญญา หากเป็นธุรกิจ ผู้ถือหุ้นต้องมีสัญชาติของประเทศคู่สัญญาและถือหุ้นอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์
- การลงทุนต้องมีมูลค่ามาก และ จะต้องมีหลักฐานการลงทุนไปในธุกิจ การลงทุนต้องมีจำนวนมากพอที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในการดำเนินกิจการของบริษัท
- การลงทุนต้องอยู่ในบริษัทที่มีการดำเนินกิจการอยู่หรือกำลังจะเปิดดำเนินการในไม่ช้า – โครงการการลงทุนและเงินลงทุนจำนวนเล็กน้อยไม่ตรงกับคุณสมบัติของวีซ่าประเภทนี้ เงินลงทุนที่ไม่มีการการันตีในบัญชีธนาคารหรือการถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ไม่มีการพัฒนาไม่ถือเป็นการลงทุน
- การลงทุนต้องหวังผลประกอบการที่มีมูลค่า – บริษัทต้องหวังผลตอบแทนทางการเงินที่มากกว่าเงินเพียงแค่จะทำให้ธุรกิจดำรงอยู่ได้หรือบริษัทต้องมีศักยภาพในการทำกำไรเป็นจำนวนมากทั้งในปัจจุบันและอนาคต
- นักลงทุนต้องเป็นผู้ควบคุมบริหารจัดการเงินลงทุน และ การลงทุนนั้นต้องมีความเสี่ยงในแง่ของการลงทุนในธุรกิจ– หากเงินลงทุนไม่มีความเสี่ยงขาดทุน การลงทุนนั้นไม่ถือเป็นการลงทุนตามกฎหมาย The Immigration and Nationality Act (INA) 101(a)(15)(E) เงินกู้ที่ได้จากการจำนองสินทรัพย์ของบริษัทที่ลงทุนไม่ตรงกับคุณสมบัติข้อนี้
- นักลงทุนต้องมาประเทศสหรัฐฯเพื่อพัฒนาและบริหารบริษัท– หากผู้สมัครไม่ใช่นักลงทุนหลัก ก็ต้องเป็นผู้มีตำแหน่งบริหาร หัวหน้า หรือ มีความชำนาญเฉพาะทางพิเศษ ผู้สมัครที่มีความชำนาญทั่วไปหรือไม่มีความชำนาญเลยไม่สามารถสมัครวีซ่าประเภทนี้ได้
- ผู้สมัครต้องเดินทางออกจากประเทศสหรัฐฯเมื่อสถานะวีซ่าประเภท E-2 สิ้นสุดลง
วีธีการสมัครวีซ่าประเภท E-1 หรือ E-2
สถานทูตสหรัฐฯ จะพิจารณาเอกสารของท่าน เมื่อท่านได้ทำการชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า และนัดหมายสัมภาษณ์วีซ่าแล้วเท่านั้น กรุณาปฏิบัติตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อทำการนัดหมายสัมภาษณ์วีซ่า
ขั้นตอนที่ 1
กรอกใบคำร้องขอวีซ่าชั่วคราวในระบบอิเล็กทรอนิกส์ (DS-160)
ขั้นตอนที่ 2
ชำระค่าธรรมเนียมในการยื่นคำร้องขอวีซ่าและเก็บใบเสร็จค่าธรรมเนียมไว้.
ขั้นตอนที่ 3
เตรียมใบสมัครและเอกสารประกอบการสมัครตามแบบฟอร์มที่กำหนดไว้ในเว็บไซต์
คลิกที่ลิงค์ด้านล่างสำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการเตรียมเอกสารประกอบการสมัครของวีซ่าแต่ละประเภท
เอกสารประกอบการยื่นวีซ่าผู้ประกอบค้าตามสนธิสัญญาประเภท E-1
เอกสารประกอบการยื่นวีซ่านักลงทุนตามสนธิสัญญาประเภท E-2
เอกสารประกอบการยื่นวีซ่าสำหรับผู้บริหาร/ หัวหน้า ของบริษัท E-2
เอกสารประกอบการยื่นวีซ่าสำหรับพนักงานมีความชำนาญเฉพาะทางของบริษัท E-2
คำชี้แจง: ผู้ติดตามวีซ่าประเภท E จะได้รับการพิจารณาใบสมัครพร้อมกับผู้สมัครหลัก หรือหลังจากวีซ่าผู้สมัครหลักได้รับการอนุมัติแล้วเท่านั้น หากผู้ติดตามไม่ได้สมัครวีซ่าในเวลาเดียวกันกับผู้สมัครหลัก ต้องแนบสำเนาวีซ่าผู้สมัครหลักที่ได้รับการอนุมัติและยังไม่หมดอายุแล้วเท่านั้น เด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี ไม่ต้องมาสัมภาษณ์หากยื่นเอกสารพร้อมผู้สมัครหลัก หากเด็กอายุต่ำกว่า 14 สมัครวีซ่าคนเดียว ผู้ปกครองต้องมาด้วยในวันสัมภาษณ์
วิธีการอีเมลใบสมัครและเอกสารประกอบวีซ่าประเภท E กรุณาส่งมาที่ BangkokBusinessTravel@state.gov หัวข้ออีเมลให้ระบุ: นามสกุล และ ชื่อ-วันนัดสัมภาษณ์วีซ่าประเภท E เช่น หากท่านชื่อ John Doe ให้ท่านระบุในหัวข้ออีเมลว่า: Doe, John-E visa หลังจากที่ท่านส่งใบสมัครของท่าน ท่านจะได้รับอีเมลยืนยัน ท่านสามารถเขียนอีเมลไปยังที่อยู่ข้างต้นหากท่านไม่ได้รับอีเมลยืนยันภายในสองวันหลังจากที่ท่านส่งใบสมัครทางอีเมล
ขั้นตอนที่ 4
ส่งใบสมัครและเอกสารประกอบการสมัครมายัง BangkokBusinessTravel@state.gov.
ขั้นตอนที่ 5
กรุณารอทางสถานทูตตอบกลับเพื่อยืนยันว่า ทางสถานทูตได้รับใบสมัครและเอกสารประกอบการสมัครของท่านอย่างครบถ้วนและได้รับการพิจารณาเบื้องต้นแล้ว
ขั้นตอนที่ 6
ทำการนัดสัมภาษณ์วีซ่าผ่านเว็บนี้ ท่านจะต้องใช้ข้อมูลต่อไปนี้ในการทำนัดสัมภาษณ์
- หมายเลขหนังสือเดินทางของท่าน
- เลขที่อ้างอิง Virtual Account ID/EFT Account Number ที่ท่านใช้ในการชำระเงินด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือเลขที่อ้างอิง CGI ที่ปรากฏบนใบเสร็จชำระเงินค่าธรรมเนียมวีซ่าของท่าน (โปรดคลิก ที่นี่ หากท่านต้องการความช่วยเหลือในการค้นหาหมายเลขดังกล่าว)
- หมายเลขบาร์โค้ดสิบหลักที่ระบุไว้บนหน้ายืนยันแบบฟอร์ม DS-160
ขั้นตอนที่ 7
มาที่สถานทูตสหรัฐฯ ก่อนเวลานัดสัมภาษณ์ 15 นาทีตามวันที่ท่านมีนัดสัมภาษณ์ สถานกงสุลเชียงใหม่ไม่รับใบสมัครและสัมภาษณ์วีซ่าประเภท E ท่านต้องนำใบยืนยันนัดสัมภาษณ์ ใบยืนยัน DS-160 ของท่าน รูปถ่ายที่ถ่ายไว้ไม่เกินหกเดือนหนึ่งใบ หนังสือเดินทางเล่มปัจจุบันและเล่มเก่าทั้งหมดและใบเสร็จการชำระเงินค่าธรรมเนียมวีซ่าตัวจริงมาด้วย ใบคำร้องขอวีซ่าที่ไม่มีเอกสารทั้งหมดดังกล่าวจะไม่ได้รับการพิจารณา
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
เข้าดูที่เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐฯ วีซ่าสำหรับผู้ประกอบการค้าและผู้ลงทุนตามสนธิสัญญา หากท่านมีคำถามเพิ่มเติม โปรดส่งอีเมลมาที่ BangkokBusinessTravel@state.gov
หากท่านไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านล่างจะส่งผลให้การนัดสัมภาษณ์สัมภาษณ์ของท่านเกิดความล่าช้า
- ข้าพเจ้าได้ใช้เทมเพลตที่ถูกต้องกับประเภทวีซ่าและจัดเอกสารได้ถูกต้องตามแถบ https://th.usembassy.gov/th/visas-th/nonimmigrant-visas-th/
- ข้าพเจ้าได้ส่งใบสมัครและเอกสารประกอบการสมัครตามคำแนะนำอย่างครบถ้วน
- ใบสมัครและเอกสารประกอบการสมัครของข้าพเจ้าไม่เกิน70หน้า
- ไฟล์ใบสมัครและเอกสารประกอบการสมัครของข้าพเจ้าไม่เกิน 50 เมกกะไบต์
**กรุณาอย่าส่งเอกสารอื่นๆมาเพิ่มเติมนอกเหนือจากรายการเอกสารที่ได้ระบุตามเว็บไซต์ https://ustraveldocs.com/th/th-niv-typee.asp
โปรดทราบ:
ท่านจะไม่สามารถทำนัดสัมภาษณ์ได้จนกว่าทางสถานทูตยืนยันว่าได้รับเอกสารประกอบการสมัครและกระบวนการพิจารณาเบื้องต้นได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว
เอกสารที่จำเป็นในการประกอบการยื่นวีซ่าผู้ค้าตามสนธิสัญญาประเภท E-1
ใบสมัครต้องจัดเป็นส่วนให้ชัดเจนคั่นด้วยแถบตัวอักษร เอกสารแต่ละส่วนต้องมีแถบตัวอักษรระบุชัดเจนตามวิธีด้านล่าง
แถบ A DS 160 |
สำหรับผู้สมัครหลักและผู้ติดตาม: หน้ายืนยันใบสมัครออนไลน์ DS-160 |
แถบ B ข้อมูลชีวประวัติ |
สำหรับผู้สมัครหลักและผู้ติดตามในฐานะครอบครัว:
|
แถบ C DS 156E |
ใบคำร้อง DS-156E กรุณาใส่อีเมลในส่วนของข้อมูลที่ติดต่อกลับ |
แถบ D จดหมายนำ |
จดหมายนำระบุรายละเอียดเกี่ยวกับบริษัท ตำแหน่งของผู้สมัครวีซ่า ซึ่งต้องระบุคุณสมบัติทั้งหมดที่กำหนดโดยข้อกำหนดกระทรวงต่างประเทศและกฎหมายสหรัฐฯ โดยต้องระบุรายละเอียดดังนี้:
|
แถบ E การแสดงความเป็น เจ้าของกิจการ |
หลักฐานที่ระบุความเป็นเจ้าของ และ ควบคุมผลประโยชน์ของบริษัทของประเทศคู่สนธิสัญญา ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-4(B)
|
แถบ F การประกอบธุรกิจ ต้องมีมูลค่ามาก |
หลักฐานแสดงให้เห็นว่าการประกอบธุรกิจมีมูลค่ามากพอของธุตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-5(C)
|
แถบ G การค้าหลัก |
หลักฐานที่แสดงว่าธุรกิจนี้เป็นการค้าหลักระหว่างบริษัทในสหรัฐฯและประเทศคู่สนธิสัญญา ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-5(D)
|
แถบ H ข้อมูลพนักงาน |
E-1 ผู้บริหาร ผู้จัดการ หัวหน้า ผู้มีความชำนาญเฉพาะทางหรือมีทักษะสำคัญกับการดำเนินการของบริษัท ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-7(B)
|
แถบ I โครงสร้างบริษัท |
|
แถบ J G 28 |
G-28 “หนังสือแจ้งว่าผู้ใดคือทนายหรือตัวแทน” (ตามความเหมาะสม) พร้อมทั้งระบุที่อยู่อีเมลและหมายเลขโทรศัพท์เพื่อความสะดวกในการติดต่อกลับ |
เอกสารประกอบการยื่นวีซ่านักลงทุนตามสนธิสัญญาประเภท E-2
ใบสมัครต้องจัดเป็นส่วนให้ชัดเจนคั่นด้วยแถบตัวอักษร เอกสารแต่ละส่วนต้องมีแถบตัวอักษรระบุชัดเจนตามวิธีด้านล่าง
แถบ A DS 160 |
สำหรับผู้สมัครหลักและผู้ติดตาม: หน้ายืนยันใบสมัครออนไลน์ DS-160 |
แถบ B ข้อมูลชีวประวัติ |
สำหรับผู้สมัครหลักและผู้ติดตามในฐานะครอบครัว:
|
แถบ C DS 156E |
ใบคำร้อง DS-156E กรุณาใส่อีเมลในส่วนของข้อมูลที่ติดต่อกลับ |
แถบ D จดหมายนำ |
จดหมายนำซึ่งแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับบริษัท ตำแหน่ง ของผู้สมัครวีซ่า ซึ่งต้องระบุคุณสมบัติทั้งหมด โดยข้อมูลในจดหมายต้องระบุคุณสมบัติที่จำเป็นของวีซ่าประเภท E ซึ่งกำหนดโดย กระทรวงต่างประเทศและกฎหมายสหรัฐฯ ดังต่อไปนี้:
|
แถบ E การแสดงความเป็น เจ้าของกิจการ |
หลักฐานที่ระบุความเป็นเจ้าของประเทศคู่สนธิสัญญา และ ควบคุมผลประโยชน์ของบริษัทของประเทศคู่สนธิสัญญา ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-4(B)
|
แถบ F การประกอบธุรกิจ ต้องมีมูลค่ามากพอ |
หลักฐานที่ระบุว่ามีการลงทุนมีมูลค่ามากพอ ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-6 (D)
|
แถบ G ขั้นตอนการลงทุน |
หลักฐานที่ระบุว่ามีการลงทุนจริง หรือนักลงทุนผู้นั้นกำลังจะดำเนินการลงทุนในเร็วๆนี้ หรือจะเปิดดำเนินการลงทุนโดยในทันที ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-6 (B)
|
แถบ H การดำเนินการปัจจุบัน |
หลักฐานที่ระบุว่ามีธุรกิจกำลังดำเนินการอยู่ หรือธุรกิจกำลังเปิดดำเนินการในเร็วๆนี้ ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-6 (C)
|
แถบ I ผลกำไร |
หลักฐานแสดงผลการประกอบธุรกิจที่ได้กำไร ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-6(E)
|
แถบ J แผนธุรกิจ |
|
แถบ K โครงสร้างองค์กร |
|
แถบ L G-28 |
G-28 “หนังสือแจ้งว่าผู้ใดคือทนายหรือตัวแทน” (ตามความเหมาะสม) พร้อมทั้งระบุที่อยู่อีเมลและหมายเลขโทรศัพท์เพื่อความสะดวกในการติดต่อกลับ |
เอกสารประกอบการยื่นวีซ่าสำหรับผู้บริหาร/ หัวหน้า ของบริษัท E-2
ใบสมัครต้องจัดเป็นส่วนให้ชัดเจนคั่นด้วยแถบตัวอักษรซึ่งจะมีการเขียนหัวข้อต่างๆ ตามที่กล่าวได้ในตารางด้านล่าง
แถบ A DS 160 |
สำหรับผู้สมัครหลักและผู้ติดตาม: หน้ายืนยันใบสมัครออนไลน์ DS-160 |
แถบ B ข้อมูลชีวประวัติ |
สำหรับผู้สมัครหลักและผู้ติดตามในฐานะครอบครัว:
|
แถบ C DS 156E |
ใบคำร้อง DS-156E กรุณาใส่อีเมลในส่วนของข้อมูลที่ติดต่อกลับ |
แถบ D ข้อมูลพนักงาน |
คุณสมบัติของผู้บริหาร ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-7(B)
|
แถบ E โครงสร้างองค์กร |
|
แถบ F สัญญาการจ้างงาน |
|
แถบ G ข้อมูลนายจ้าง |
เพิ่มเติม กรุณาเตรียมรายละเอียดเกี่ยวกับนายจ้าง:
|
แถบ H G 28 |
G-28 “หนังสือแจ้งว่าผู้ใดคือทนายความหรือตัวแทน” (ตามความเหมาะสม) พร้อมทั้งระบุที่อยู่อีเมลและหมายเลขโทรศัพท์เพื่อความสะดวกในการติดต่อกลับ |
เอกสารประกอบการยื่นวีซ่าสำหรับพนักงานมีความชำนาญเฉพาะทางของบริษัท E-2
แถบ A DS 160 |
สำหรับผู้สมัครหลักและผู้ติดตาม: หน้ายืนยันใบสมัครออนไลน์ DS-160 |
แถบ B ข้อมูลชีวประวัติ |
สำหรับผู้สมัครหลักและผู้ติดตามในฐานะครอบครัว:
|
แถบ C DS 156E |
ใบคำร้อง DS-156E กรุณาใส่อีเมลในส่วนของข้อมูลที่ติดต่อกลับ |
แถบ D ข้อมูลพนักงาน |
คุณสมบัติของผู้บริหาร ตามข้อกำหนด 9 FAM 402.9-7(B)
|
แถบ E โครงสร้างองค์กร |
|
แถบ F สัญญาการจ้างงาน |
|
แถบ G ข้อมูลนายจ้าง |
เพิ่มเติม กรุณาเตรียมรายละเอียดเกี่ยวกับนายจ้าง:
|
แถบ H G 28 |
G-28 “หนังสือแจ้งว่าผู้ใดคือทนายความหรือตัวแทน” (ตามความเหมาะสม) พร้อมทั้งระบุที่อยู่อีเมล์และหมายเลขโทรศัพท์เพื่อความสะดวกในการติดต่อกลับ |